เลือกรองเท้าเซฟตี้อย่างไรให้เหมาะกับหน้างาน

 

รองเท้าเซฟตี้เป็นอุปกรณ์สำคัญที่ช่วยปกป้องเท้าของผู้ปฏิบัติงานจากอันตรายต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการตกกระแทก เหยียบของมีคม พื้นลื่น หรือสารเคมี แต่การเลือกใช้รองเท้าเซฟตี้ให้ถูกประเภทกับลักษณะของงาน เป็นสิ่งที่หลายคนมองข้าม ซึ่งอาจทำให้การป้องกันไม่ได้ผลอย่างที่ควรจะเป็น บทความนี้จะช่วยคุณเข้าใจว่าแต่ละประเภทของ รองเท้าเซฟตี้ เหมาะกับงานลักษณะใด และควรพิจารณาปัจจัยอะไรในการเลือกซื้อ

 

1. พิจารณาประเภทของพื้นรองเท้า

  • หากคุณทำงานในพื้นที่เปียก ลื่น เช่น ห้องเย็น หรือโรงงานอาหาร ควรเลือกรองเท้าที่มีพื้นกันลื่น (Slip-resistant sole) ที่มีดอกยางลึก และวัสดุยึดเกาะได้ดีบนพื้นเปียก
  • งานที่เกี่ยวข้องกับของมีคม เช่น โรงงานไม้ หรือไซต์ก่อสร้าง ควรเลือกรองเท้าที่มี แผ่นรองเท้ากันทะลุ (Steel plate insole) เพื่อป้องกันการเหยียบตะปูหรือวัตถุแหลมคม

 

2. ตรวจสอบความแข็งแรงของหัวรองเท้า

หัวรองเท้าเซฟตี้โดยทั่วไปมี 3 ประเภท ได้แก่ หัวเหล็ก (Steel Toe), หัวคอมโพสิต (Composite Toe) และหัวไฟเบอร์กลาส

  • หากคุณทำงานในพื้นที่ที่มีของหนักตกใส่ได้ง่าย เช่น คลังสินค้า ไซต์ก่อสร้าง ควรใช้ รองเท้าหัวเหล็ก ซึ่งมีความทนทานต่อแรงกระแทกสูง
  • ถ้าทำงานใกล้ไฟฟ้าหรือเครื่องมือที่เกิดไฟฟ้าสถิต ควรใช้ หัวคอมโพสิต ที่ไม่มีส่วนผสมของโลหะเพื่อป้องกันอันตรายจากกระแสไฟฟ้า

 

3. เลือกรองเท้าตามสภาพอากาศและลักษณะพื้นที่

4. ใส่ใจเรื่องความสบายและสุขภาพเท้า

การเลือกแผ่นรองเท้าด้านใน ที่รองรับอุ้งเท้าและช่วยกระจายน้ำหนัก จะช่วยลดอาการเมื่อยล้า โดยเฉพาะผู้ที่ต้องยืนหรือเดินนาน ๆ ระหว่างวัน ควรเลือกรองเท้าที่มีการซัพพอร์ตดีและน้ำหนักเบาเพื่อไม่เพิ่มภาระให้กับขา

 

5. ตรวจสอบมาตรฐานรองเท้า

รองเท้าเซฟตี้คุณภาพควรผ่านมาตรฐานความปลอดภัย เช่น มอก. (ของไทย), CE (ยุโรป), ASTM (อเมริกา) เพื่อให้มั่นใจว่าอุปกรณ์นั้น ๆ ผ่านการทดสอบการกันกระแทก กันทะลุ กันไฟฟ้า หรือกันลื่นอย่างถูกต้อง

 

การเลือกรองเท้าเซฟตี้ไม่ได้วัดกันที่ราคาหรือความสวยงามเพียงอย่างเดียว แต่ต้องพิจารณาให้เหมาะกับลักษณะของงาน สภาพแวดล้อม และความสบายของผู้สวมใส่ด้วย หากเลือกอย่างถูกต้อง นอกจากจะช่วยลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุแล้ว ยังเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานด้วยเช่นกัน